มาแว้วววววววววววว
เมื่อวันอาทิตย์ (2016-07-03) ทีผ่านมา ไปเที่ยวบัสทัวร์จังหวัดนากาโน่กับเทรุมา
จำได้ป่ะ ตอนนั้นที่เล่าว่าซื้อกระเป๋า Rimowa Limited edition มาจากเยอรมันสองใบ (ถ้ายังไม่อ่านบล็อกเยอรมัน คลิกอ่าน ที่นี่) สองเดือนผ่านไป ขายได้แล้วนะ โห่ฮิ้วววววว ได้กำไรพอสมควรเลยล่ะเทรุก็เลยบอก (อ้าง?) ว่า เอาเงินกำไรที่ได้ไปเที่ยวกันดีกว่า
ใช้ส่วนลดพนักงานอุดหนุนทัวร์ของบริษัท วิธีการจองยุ่งยากนิดนึงถ้าขี้เกียจจะซื้อราคาเต็มเลยก็ได้ ไม่ได้สิ เราต้องรักษาสิทธิ์ ฮา….

นากาโน่ไกลมากกกกก นั่งรถซะเมื่อยตูดเลย ออกจากโตเกียวแปดโมง ถึงนากาโน่ 11 โมง สามชั่วโมงเต็ม ดีนะที่รถไม่ติดเท่าไหร่ ได้งีบไปแป๊บนึงก็เลยเหมือนไม่ค่อยนานมาก
มาถึง ก็กินเลยจ้า


ยังไม่ได้บอกใช่มะว่าวันนี้คือกะมากินเต็มที่ อาหารกลางวัน + เก็บผลไม้สองชนิด + เดินชิมขนมที่โอบุเสะ กินทั้งวันอ่ะ ไม่มีโปรแกรมเที่ยวเลย เหมาะกับคนตะกละอย่างเรามาก ฮา…..
เลือกมาด้วยความตั้งใจนะ นานๆ ทีจะมีอะไรแบบนี้ โชคดีด้วยที่ยังพอมีเชอร์รี่ให้เก็บ ปกติมันจะหมดหน้าเร็วมาก


กินไปแค่นิดเดียวเพราะกลัวอิ่ม แต่ถึงขนาดนั้นก็ยังแน่นๆ เลย ตัดกำลังสุดๆ
สวนผลไม้ก็อยู่เยื้องๆ ไปนี่เอง พอทานข้าวเสร็จ บัสก็พาไปต่อที่สวนเชอร์รี่เลย เจ้าของสวนมาอธิบายวิธีเลือกและเก็บเชอร์รี่ ที่สวนนี้ไม่มีซาโต้นิชิกิ (เชอร์รี่ไฮโซของญี่ปุ่น) แต่เค้ามีให้ในกล่องให้ชิม ใหม่กินไปนิดเดียว ไม่อร่อยเท่าเก็บกินสดๆ



คนเยอะมาก สวนก็ไม่ได้กว้างเลยนะ เดินเบียดกันไปเบียดกันมา ต้องหาทำเลดีๆ บันไดก็มีให้ไม่กี่อันเอง ต้องเอากล่องมาซ้อนๆ กันแล้วปีนกล่องเอา (คงไม่ต้องบอกนะว่ามีคนตกด้วย อายน่าดู)
เชอร์รี่ลูกโตและหวานมั่ก โอ้ย คืออยู่ญี่ปุ่นมาก็หลายปีแล้วนะ ไปเก็บสตรอเบอร์รี่มาเป็นสิบครั้งแล้ว แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้มาเก็บเชอร์รี่สดๆ จากสวน มันดีอย่างงี้นี่เอง ไว้ปีหน้าไปอีก



มีเวลาแค่สามสิบนาที ไม่ได้นับว่ากินไปกี่ลูก แต่น่าจะเยอะอยู่นะ เพราะมันลูกเล็กไง น้ำไม่ค่อยเยอะด้วยไม่เหมือนลูกพีช กินนิดเดียวก็น้ำเต็มท้องอิ่มซะแล้ว
หมดเวลา ก็มูฟไปสวนบลูเบอร์รี่ต่อ หลายคนอาจจะสงสัยว่า ยังกินต่อได้อยู่เหรอ ยังค่า ยังไหว


ที่สวนบลูเบอร์รี่…
ได้แก้วพลาสติกเล็กมาหนึ่งใบ เก็บทานได้ไม่อั้นเลย แต่เอากลับบ้านได้แค่เต็มถ้วยนี้เท่านั้น เก็บเข้าปากทีละลูกมันเสียเวลา ก็เลยเก็บใส่แก้ว เต็มก็กินทีนึง แล้วก็เก็บใหม่ เวลาครึ่งชั่วโมง กินไปประมาณสามแก้วได้ อิ่มพุงแตก


เทรุชอบบลูเบอร์รี่มาก จำได้ว่าตอนอยู่เยอรมันใหม่เคยไปสวนบลูเบอร์รี่กับมอนิกา เก็บกลับมาฝากเทรุด้วย เยอะมากจนคิดว่ายังไงก็คงกินไม่หมดว่าจะเอาไปทำหน้าชีสเค้กซะหน่อย ปรากฏว่าเทรุกินหมดเลยวันเดียว แสดงว่าชอบมากจริงๆ
รสชาตมันไม่เหมือนที่ใส่แพคมาขายตามซุปเปอร์นะ อร่อยกว่ามาก ต้องลองเองถึงจะรู้



เก็บผลไม้เสร็จ ก็เดินทางต่อไปที่โอบุเสะ (Obuse) ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวเล็กๆ ในจังหวัดนากาโน่
บรรยากาศก็จะออกแนวเก่าๆ หน่อย ที่นี่เราได้รับคูปองกับแผนที่มา ถ้าหากสนใจร้านที่อยู่ในคูปองมีรายการชิมฟรีให้ลอง เดินตามแผนที่ไปกินได้



แต่ใหม่คงจะกินเยอะไปหน่อย บวกกับท้องไม่ค่อยแข็งแรงอยู่แล้ว เลยเกิดอาการจู้ดดดดดดดดดขึ้นมา วิ่งหาห้องน้ำแทบไม่ทัน
สรุปว่าหนึ่งชั่วโมงที่โอบุเสะ หมดไปกับการวิ่งเข้าห้องน้ำ แน่นอนอยู่แล้วววววว


เมืองนี้เกาลัดดังมาก มีคาเฟ่ที่ขายขนมที่มีเกาลัดเป็นส่วนผสมหลักหลายร้านเลย ว่าจะลองไปชิมดูแต่คิวยาวมาก มีเวลาแค่ ชม เดียวไม่น่าพอ
และที่จริงก็อิ่มแล้วอ่ะนะ คิดว่ากินไปตอนนี้ก็คงไม่อร่อย
น้องที่เคยไปโอบุเสะมา เค้าบอกว่ามี Chestnut’s path ด้วยนะ ใหม่ก็ไปเดินหาอยู่ตั้งนาน สรุปว่ามันคือถนนเล็กๆ ที่ไม่มีอะไรเลยแม้แต่ต้นเกาลัด ฮ่วย


ขากลับ รถติดบรรลัยมากกกก เพราะเกิดอุบัติเหตุบนทางด่วนพอดี กว่าจะผ่านไปได้ ขามา 3 ชม ขากลับปาไป 4 ชม แวะ service area สองรอบ ถึงโตเกียวทุ่มกว่าๆ นั่งรถจนเมื่อยเลย
เนี่ย ถ้าจะไปนากาโน่ ค้างสักคืนน่าจะเวิร์คนะ ไม่เหนื่อยมาก อากาศก็ดีด้วย
ของฝาก เป็นเมล่อนลูกเล็กๆ หนึ่งลูก ผัก 2 กก แล้วก็เนื้อหมู 2 ชิ้น (ชิ้นหนาพอสมควร) ซึ่งใหม่ว่าจริงๆ ไม่ต้องมีก็ได้นะ เพราะผักก็ไม่ใช่ของท้องถิ่น ซื้อมาจากชิบะ ไม่สดเลยด้วย หมูก็แช่แข็งและอิมพอร์มมาจากแคนาดา ไม่ใช่ของดีตามที่คาดไว้ตอนซื้อทัวร์เลย เทรุบอกว่า ก็งี้แหละ เอาของดีให้เรามากๆ เขาก็ขาดทุน (เรื่องแบบนี้นึกว่ามีแค่ที่จีน ญี่ปุ่นก็มีนะ 55)
ปิดทริปจ้า สั้นๆ ห้วนๆ แบบนี้เลย